ป่าคำชะโนด เมืองสองโลก ศรัทธาแห่งตำนานพญานาค
ทุกคนเคยได้ยินตำนานเกี่ยวกับพญานาคหรือตำนานผีจ้างหนังกันมาบ้างมั้ย
เราเองก็เป็นคนหนึ่งที่เคยได้ยินเช่นกัน จนคืนหนึ่งได้ฝันถึง พญานาค ซึ่งท่านบอกให้มาหา
และนี่ก็คือจุดเริ่มต้นของการเดินทางครั้งนี้ ป่าคำชะโนด เมืองสองโลก ศรัทธาแห่งพญานาค
ตามความเชื่อที่เล่าสืบต่อกันมา พรหมประกายโลกคือสถานที่ที่พรหม-เทวดา ลงมากินง้วนดินจนติดใจและไม่อาจที่กลับขึ้นสวรรค์ได้อีก ในอัคคัญญสูตร
พระไตรปิฎกของพุทธศาสนาเล่าว่า ง้วนดินมีรสชาติหวานฉ่ำ แต่เมื่อลิ้มลองแล้วจะทำให้รัศมีของเหล่าพรหมหายไปจนไม่อาจเป็นแสงให้โลกใบนี้ได้อีก
สำหรับผู้ศรัทธาพญานาค โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ริมน้ำโขง และผู้ที่ผูกพันกับตำนานพญานาคมาแต่โบราณอย่างชาวอีสาน ซึ่งมีความเชื่อกันว่า
ทางขึ้น-ลงระหว่าง 2 โลก คือโลกมนุษย์และโลกบาดาล มีทั้งหมด 3 แห่งบนโลก นั่นก็คือ
หนึ่ง คือ พระธาตุหลวงแห่งเวียงจันทน์
สอง คือ หนองคันแท พระธาตุดำ ซึ่งตั้งอยู่ที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวเช่นกัน
สาม คือ พรหมประกายโลก มีพญาศรีสุทโธนาคราชมาตั้งบ้านเมืองจนกลายเป็นเมืองพญานาค
อย่างที่บอกไปตอนต้น ว่าการเดินทางนี้เกิดจากการที่พญานาคท่านมาเข้าฝัน และให้ไปหา ด้วยความที่เราเคยตั้งใจจะไปอยู่แล้ว ว่าแล้วก็ยกครอบครัว จองตั๋วแล้วมุ่งหน้าสู่คำชะโนดทันที
ในช่วงการเดินทางเมื่อเราใกล้ถึงคำชะโนดเราจะเริ่มเห็นร้านค้าที่ขาย บายศรีที่ทำเป็นรูปพญานาคแบบต่างๆไว้ เต็มสองข้างทาง ซึ่งเราก็เลือกซื้อที่นี่ได้เลย
จากนั้นออกเดินทางต่อจนมาถึง วัดศิริสุทโธ หรือ วัดป่าคำชะโนด อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ซึ่งคนในพื้นที่เชื่อว่าเป็นดินแดนของพญานาค ป่าศักดิ์สิทธิ์ ลี้ลับ อาถรรพ์ เกาะลอยน้ำ
กับเรื่องราวความเชื่อที่ว่าเกาะคำชะโนดไม่เคยจมน้ำ เพราะมีพญานาคคอยปกปักรักษา และในช่วงที่โควิด19นี้ การเข้าไปคำชะโนดยังคงต้องขอดูหลักฐานการฉีดวัคซีนเช่นเดิม และถอดรองเท้าก่อนเข้าชม
ก่อนที่เราจะเดินเข้าไปในป่าคำชะโนด บริเวณหน้าทางเข้าวังนาคินทร์คำชะโนดเป็นอีกหนึ่งจุดเช็กอินที่ผู้ศรัทธาจะมายืนถ่ายภาพ พร้อมเครื่องสักการะที่จับจองไว้ตั้งแต่ด้านนอกหรือเพิ่งมาซื้อด้านใน ผู้มาเยือนจะใช้มือลูบตัวพญานาคเพื่อความสิริมงคลระหว่างเดินเข้า เราก็แอบแตะเบา ๆ เพราะอดใจให้สัมผัสไม่ได้ ซึ่งหากเดินข้ามตรงนี้ไป เราจะออกจากโลกมนุษย์เข้าสู่โลกพญานาค จะมีจุดสังเกตคือแผ่นไม้และรอยร้าวที่ลำตัวพญานาคสองฝั่ง ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็เชื่อมสะพานไม่ติด แม้กระทั่งลำตัวพญานาคก็มีรอยปูนแตก สร้างอะไรก็มีแต่รอยร้าว ถ้าข้ามรอยต่อตรงนี้ไปจะเป็นพรหมประกายโลก
เมื่อเดินลึกเข้าไป อุณหภูมิทุกอย่างเริ่มเย็นลงจนรู้สึกสบายอย่างบอกไม่ถูก เหมือนเราหลุดเข้ามาในโลกอีกโลกหนึ่งจริงๆ แดดร้อนถูกบดบังโดยต้นชะโนดสูงชะลูด ประกอบกับบึงน้ำที่อยู่โดยรอบทำให้อุณหภูมิภายในเย็นตลอดปี ทั้งที่ด้านหน้าที่เราเดินเข้ามาร้อนมากจนเดินเท้าเปล่าแทบไม่ไหว
และเราก็เดินมาจนถึง ศาลพ่อปู่ศรีสุทโธ แม่ย่าศรีปทุมมา บรรยากาศเต็มไปด้วยผู้คนที่ต่างมาด้วยความศรัทธา บ้างก็มาคนเดียว บ้างก็มาทั้งครอบครัว แต่ทุกคนล้วนมีจุดประสงค์เดียวกันคือการได้มาขอพร มาสักการะ เพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิต คนมือเปล่าพนมมือ คนถือบายศรียกจรดที่ศีรษะ ทุกคนก้มหน้าอย่างพร้อมเพรียงท่ามกลางเสียงอธิษฐานใต้เงาไม้ใหญ่ เมื่อเสร็จพิธี เจ้าหน้าที่ให้ทุกคนนำเครื่องบูชาไปวางไว้ที่โต๊ะด้านหน้า สักพักจึงลากลับไปเพื่อความเป็นสิริมงคล และอีกนัยหนึ่งคือการลดขยะของสถานที่หรือจะเลือกวางไว้ก็สามารถทำได้เช่นกัน
จากนั้นเราก็เดินต่อเพื่อไปสักการะ ตามความเชื่อ ใต้ต้นมะเดื่อยักษ์คือท้องพระคลังของพ่อปู่แม่ย่า หากใครต้องการขอพร-ขอโชคลาภไปที่ต้นมะเดื่อได้เช่นกัน แน่นอนว่าห้ามปีนป่ายและห้ามขูดหาเลข หลังเดินผ่านท้องพระคลัง พื้นไม้ก็พาเราเดินวนออกด้านนอกเพื่อชมวิวรอบคำชะโนดที่เต็มไปด้วยพืชพรรณสีเขียวขจี และระหว่างทางก็จะมีผู้คนมานั่งสมาธิ จึงไม่ควรส่งเสียงดังและควรสำรวมให้มากๆ
จุดต่อไปวนกลับมาใกล้สะพานที่เราเดินเข้ามา ก็คือบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งได้รับการปกปักษ์รักษาโดยพญานาค 7 เศียร บ่อน้ำแห่งนี้มีน้ำผุดขึ้นมาตลอดเวลาและไม่เคยเหือดแห้ง ทั้งน้ำที่ไหลออกมายังใสสะอาด พร้อมให้ผู้ศรัทธาตักกลับบ้าน แต่นั่นคือกิจกรรมก่อนโควิด-19 ระบาด ทำให้ปัจจุบันเราตักน้ำไม่ได้แล้ว แต่ทุกคนก็ยังสามารถทำการขอพรอีกรูปแบบหนึ่งที่ผู้คนนิยมคือการตั้งจิตอธิษฐานและทำการตั้งเหรียญ
โดยเชื่อว่าหากใครตั้งเหรียญได้ก็จะสมหวังในพรนั้นนั่งเอง
หลังจากสักการะเรียบร้อยเราก็เดินออกมาเพื่อกลับสู่โลกมนุษย์โดยเดินผ่านเส้นทางเดิม จากนั้นก็ตามสเตปเลยค่ะเรามาเยือนถึงคำชะโนดแบบนี้ ไม่รีรอเดินเข้าร้านที่ตั้งเป็นแผงๆ อยู่เต็มพื้นที่วัด แต่ละร้านจะมีกระดาษติดอยู่เต็มแผงให้เราได้เลือกซื้อใบที่ชอบใจติดไม้ติดมือกลับบ้านกันคนละใบ หรือบางท่านก็หลายใบมากๆเราเองก็โดนไปเยอะเหมือนกันค่ะ แหะ แหะ
สุดท้ายนี้เราคิดว่าท่ามกลางความหลากหลายของผู้คนและเชื้อชาติ คำชะโนดทำหน้าที่ในการหลอมรวมผู้คนเข้าหากันผ่านความเชื่อและความศรัทธาในสิ่งเดียวกัน สำหรับหลายคนที่แห่งนี้จึงไม่ใช่แค่สถานที่ท่องเที่ยว แต่เป็นแหล่งพักพิงและที่พึ่งทางจิตใจของคนทั้งท้องถิ่นและต่างถิ่น เราเชื่อว่าการที่ที่เราได้มาสักการะในครั้งนี้ถือว่าเป็นการเพิ่มพลังจิตใจ แม้ว่าท่านจะไม่ได้มาเข้าฝันเราก็ตั้งใจไว้แล้ว ซึ่งครั้งนี้เราก็ได้มาเยือนแล้วเชื่อว่าจะมีครั้งต่อไปเร็วๆนี้อย่างแน่นอน สำหรับท่านใดที่อยากไปหรือมีแผนกำลังจะไปสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ด้านล่างนี้ได้เลยนะ
——————–
ข้อมูลคำชะโนด
– ตั้งอยู่: วัดศิริสุทโธคำชะโนด ตำบลวังทอง อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี
– เปิดทุกวัน: ตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น.
– การเดินทางโดยรถยนต์: ขับมาตามเส้นทางหลวงหมายเลข 22 ขับตรงไปเมื่อเข้าสู่เขตพื้นที่บ้านหนองเม็ก ให้เลี้ยวซ้ายไปทาง อ.บ้านดุง ขับต่อไปเป็นระยะทาง 9 กิโลเมตร จะถึงป่าคำชะโนด
——————–
ติดตามพวกเราชาว GOO ได้ที่
• website: www.goothai.com
• fanpage: Goothai ท่องเที่ยวไทย ไปทั่วโลก
• กลุ่มเที่ยวไทยไปกับ goo: http://bit.ly/2MF9z73
• LINE: https://lin.ee/kxnAbIu
.
ติดต่อลงโฆษณา/รีวิว เพจ Goothai ได้ที่
•Tel.085-484-5381
•Inbox: m.me/thailandtravel.th
•Email: [email protected]
——————
#รีวิว #Goothai #รีวิวทั่วไทย #ท่องเที่ยว #เที่ยวไทย #ReviewThailand #amazingthailand #Thailand #Travel #เที่ยวสไตล์Goothai ##คําชะโนด #วังนาคินทร์ #พญานาค